สายพันธุ์ ปลาคราฟ ได้ผ่านการพัฒนาจากทั่วโลกมาหลายร้อยปี จนมีมากกว่า 100 สายพันธุ์แล้วในปัจจุบัน แต่วันนี้ผมจะมาพูดถึง 10 สายพันธุ์ที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด เพราะลวดลายสีสันสวยงาม และมีความหมายที่ดีสำหรับชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
“ปัจจุบันพวกมันมีมากกว่า 120 สายพันธุ์
แล้วที่น่าตกใจคือ ไม่มีตัวไหนลวดลายซ้ำกันเลย”
10 สายพันธุ์ ปลาคราฟ ที่ทุกคนควรรู้ !
1. โคฮาคุ (Kohaku)
ชาวก้อยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าจะเริ่มต้น เริ่มที่โคฮาคุ” โคฮาคุเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุด ลำตัวสีขาวแดง แล้วก็มีสายพันธุ์ย่อยขึ้นอยู่กับลวดลายสีแดงบนตัวเช่น นิดัง โคฮาคุ (2 ตอน) ซันดัง โคฮาคุ (3ตอน) เป็นต้น
2. โชว่า (Showa)
พูดถึงสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดไปแล้ว ขอพูดถึงสายพันธุ์ที่อายุน้อยที่สุดบ้าง นั่นคือโชว่า เพราะกว่าจะเพาะพันธุ์จนมีสีสันสวยงามขนาดนี้ได้ ก็เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2508 นี่เอง โชว่าลำตัวมี 3 สีนั่นคือดำขาวและแดง สีดำจะเด่นกว่าสีขาว มือใหม่จะแยกระหว่างซันเก้ยากหน่อย แต่ให้ดูที่หัวถ้าเป็นสีดำ แปลว่าคือโชว่า
3. ไทโซซันโชกุ (Taisho Sanshoku)
หรือเรียกกันติดปากว่า ซันเก้ ตั้งชื่อตามยุคที่เกิดในญี่ปุ่นนั่นคือช่วง ไทโซ (ค.ศ. 1912-1926) ระหว่างกำลังคัดเลือกสายพันธุ์ ได้สังเกตเห็นจุดสีดำเล็กๆ ซึ่งเรียกว่าซูมิ ลักษณะของซันเก้จะคล้ายโชว่าคือ มี 3 สี ต่างกันตรงที่ไม่มีสีดำที่หัวนั่นเอง
4. คินกินริน (Kin Gin Rin)
มีความหมายว่า ประกายแวววาว ที่ขึ้นบนเกล็ดสีขาว เราแบ่งลักษณะได้ประเภทคือ เบตะกิน, คาโดะกิน, ฮิโรชิม่ากินและทามะกิน สำหรับสายพันธุ์ ปลาคราฟ นี้ต้องมีเกล็ดสีเงินอย่างน้อยสามแถว ระยิบระยับและจะยิ่งสว่างถ้าโดนแสงสะท้อน
5. อุทสึริ โมโน (Utsurimono)
อุทสึริมาจากการพัฒนาสายพันธุ์โชว่า อุทสึริคุณภาพดีจะมีสีหมึกดำเด่นชัด เป็นแถบพาดตั้งแต่หัว, หลังลงมา ทีท้องปลาโดยมีสายสลับขาวดำ ปัจจุบันอุทสึริมีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น นั่นคือ ชิโร อุทสึริ (ขาวดำ), ไฮ อุทสึริ (ดำแดง) และคิ อุทสึริ (ดำเหลือง) ในบรรดา 3 ชนิดนี้สีเหลืองหายากที่สุด
6. ตันโจ (Tancho)
เป็น 1 ในสายพันธุ์ ปลาคราฟที่หายากและเป็นที่ต้องการที่สุด เพราะไม่สามารถเพาะพันธุ์เองได้ เอกลักษณ์ของมันคือมีจุดสีแดงกลางหัว ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างตา แต่ไม่ปิดบริเวณตาและจมูก ลำตัวสีขาวบริสุทธิ์
7. ชูซุย (Shusui)
นี่คือปลาคราฟสายพันธุ์แรกที่ไม่มีเกล็ด เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง พันธุ์อาซากิกับ Doitsugoi (ปลาคราฟเยอรมันไม่มีเกล็ด) แล้วด้วยเหตุนี้ สีของซูซุยจะชัดมาก มีเกร็ดสีฟ้าเฉพาะที่กลางหลัง แล้วมีลวดลายซ้ายขวาที่สมมาตรกัน จะสวยมาก
8. อาซากิ (Asaki)
มีเกล็ดสีน้ำเงินแกมเทาบนตัว ส่วนบริเวณแก้ม ใต้ท้องด้านข้างลำตัวยาวไปถึงหางควรเป็นสีแดง ถึงจะสวยสมบูรณ์ อาซากิที่ดีหัวจะเป็นสีขาวบริสุทธิ์
9. โกโรโมะ (Koromo)
มีความหมายว่า “เสื้อคลุม” ในญี่ปุ่น สายพันธุ์ ปลาคราฟโกโรโมะเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างโคฮาคุกับอาซากิ ลักษณะผิวสีขาวอมฟ้า ลวดลายสีแดง และมีตาข่ายรูปพระจันทร์เสี้ยวเหลื่อมช้อนบนเกล็ด ซึ่งการเพาะพันธุ์โคโรโมะให้สวยตามตำรา ทำได้ยากมาก
10. โอกอน (Ogon)
โอกอนเป็นพันธุ์ที่ไม่มีลวดลายอะไร แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Platinum (สีขาวเทา) และ Yamabuki (สีทองบรอนซ์) น้องมีความเชื่องมาก จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงกัน
สายพันธุ์ ปลาคราฟประกวด Surat จัดให้
เป็นยังไงบ้างครับ แต่ละสายพันธุ์สวยๆทั้งนั้นเลย ทั้งหมดนี้ส่วนมากจะเป็นปลานำเข้าจากญี่ปุ่น ที่ราคาค่อนข้างสูง คนเลี้ยงต้องรู้งบตัวเองก่อนเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงค่าปลาอย่างเดียว ไหนจะค่าทำบ่อ เครื่องกรองน้ำ เครื่องปั๊มออกซิเจน และอื่นๆอีก หลายคนที่งบน้อยๆก็มักจะเลือกนำพวก ปลาคราฟหางยาว มาเลี้ยงเพราะราคาถูก หาง่าย ใครที่ไม่รู้ว่าการเลี้ยงปลาคราฟต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ดูไอเดียได้ที่บทความนี้
4 ปัจจัยหลักที่ต้องเตรียมก่อนเลี้ยง
จากทั้งหมดที่ผมเล่าไป หากทุกท่านมีสายพันธุ์ในใจแล้วแต่ไม่รู้จะหาซื้อที่ไหน ผมขอแนะนำ Surat Fish Farm ฟาร์มปลาคราฟที่มีพันธุ์ยอดนิยมมากมาย คุณภาพขั้นเทพเป็นปลานอก 100% ทั้งหมด การันตีจากถ้วยรางวัลชนะล้นโต๊ะ สามารถเข้าไปชมรีวิวฟาร์มของที่นี่ได้ในบทความ Surat Fish Farm
หรือถ้าไม่สะดวกสามารถแอดไลน์ @suratfishfarm มาดูรูปน้องๆเพิ่มเติมได้นะครับ ทางเรามีตัวใหม่นำเข้ามาให้ชมกันตลอด หรืออยากมาชมด้วยตัวเองก็ยินดีครับ ผมได้แปะโลเคชั่นร้านไว้ด้านล่างแล้ว มาเป็นสาวกชาวก้อยด้วยกันนะครับ
Surat Fish Farm
ที่อยู่
82 ถนนโฉลกรัฐ ตำบลบางกุ้ง
อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
84000
Line: @suratfishfarm
กำหนดเส้นทางได้ >> ที่นี่